คุณผู้หญิงทั้งหลายให้ความสนใจไปใช้บริการสปาเป็นจำนวนมาก สปาจึงจัดเป็นที่สาธารณะ และอาจเป็นแหล่งแพร่เชื้อต่างๆ ได้
ประเทศไทยเป็นประเทศหนึ่งที่มีชื่อเสียงการให้บริการสปา นักท่องเที่ยว รวมถึงคนไทยต่างให้ความสนใจไปใช้บริการจนเป็นที่นิยมไปทั่ว ซึ่งหากมองย้อนกลับไปเมื่อ 10 กว่าปีที่แล้ว สปาที่เปิดบริการแบบมาตรฐานสากลในบ้านเรามีเพียงไม่กี่แห่ง ประกอบกับอัตราค่าบริการค่อนข้างสูง ทำให้ได้รับความนิยมเพียงคนบางกลุ่มเท่านั้น แต่ปัจจุบันสถานการณ์เปลี่ยนแปลงไปอย่างมาก เพราะในเมืองใหญ่ๆ หรือเมืองท่องเที่ยว เราสามารถพบเห็นสปาได้ทั่วไป ไม่ว่าจะเป็นย่านธุรกิจการค้า หรือแม้กระทั่งริมถนน ตรอก ซอกต่างๆ
สปาที่เปิดให้บริการมีหลากหลายแบบ อาจเป็นสปาที่ให้บริการครบวงจร ผนวกด้วยบริการเพื่อสุขภาพและความงามด้านอื่นๆ เช่น ฟิตเนส ร้านอาหารเพื่อสุขภาพ ห้องนวด ห้องเสริมสวย ฯลฯ ซึ่งขึ้นอยู่กับผู้ประกอบการว่าจะเน้นบริการลูกค้าอย่างไร และเนื่องจากสปามีให้เลือกมากมาย เพื่อความเป็นระเบียบ ได้มาตรฐาน และความปลอดภัยแก่ผู้ใช้บริการทั่วประเทศ กระทรวงสาธารณสุขจึงได้กำหนดมาตรฐานสถานที่เพื่อสุขภาพ หรือเพื่อเสริมสวยตามพระราชบัญญัติสถานบริการ พ.ศ. 2509 ซึ่งมีรายละเอียดดังนี้
สถานที่ รวมถึงที่ตั้ง ระดับแสงสว่าง ความปลอดภัย และสุขอนามัยภายในสปา
ผู้ดำเนินการ มีมาตรฐานในการควบคุม ดูแลและความรับผิดชอบต่อธุรกิจ
ผู้ให้บริการ นักบำบัด หรือผู้นวด ต้องผ่านการฝึกอบรมตามหลักสูตร มีคุณสมบัติครบถ้วน
ความปลอดภัย มีมาตรฐานการทำความสะอาดเครื่องมือที่ใช้ในสปา รวมถึงการเตรียมพร้อมในกรณีเกิดเหตุฉุกเฉิน
การบริการ มีการแจ้งอัตราค่าบริการอย่างชัดเจน เพื่อให้ลูกค้ารับทราบก่อนใช้บริการ
เนื่องจากผู้รักสุขภาพ โดยเฉพาะ ดังนั้นนอกเหนือจากจะเลือกสปาที่ชื่อเสียงในการบริการ มีความเชี่ยวชาญ ยังต้องเอาใจใส่ต่อความปลอดภัยของสุขอนามัยอีกด้วย โดยรายละเอียดที่คุณไม่ควรมองข้ามก่อนตัดสินใจเข้าสปา ได้แก่
สถานที่ แม้ว่าจะไม่มีข้อบังคับระบุว่า สปาควรตั้งอยู่ที่ใดเป็นพิเศษ แต่ก็ควรตั้งอยู่ในบริเวณที่ไม่มีเสียงอึกทึกรบกวน สามารถสังเกตเห็นทางเข้า-ออก ได้อย่างชัดเจน ภายในสปามีการติดตั้งใบอนุญาตประกอบสถานบริการถูกต้องตามกฎหมาย ห้องต่างๆ ต้องมีแสงสว่างพอเพียง แม้ว่าสปาส่วนใหญ่จะปรับแสงให้นวลตา เพื่อสร้างความรู้สึกผ่อนคลายก็ตาม แต่อย่างน้อยในห้องที่ใช้สำหรับนวด เช่น ห้องนวดหน้า ห้องเสริมสวย จำเป็นต้องมีแสงสว่างมากกว่าห้องอื่นๆ และที่สำคัญประตูห้องนวดทุกห้องต้องไม่มีกุญแจล็อก ซึ่งเป็นหนึ่งในข้อกำหนดของกระทรวงสาธารณสุข โดยคำนึงถึงความปลอดภัยของลูกค้า นอกจากนี้ภายในห้องนวดต้องไม่มีกลิ่นเหม็นอับ ต้องติดตั้งระบบถ่ายเทอากาศ รวมถึงอุณหภูมิในห้องนวดต้องไม่ร้อน หรือเย็นจนเกินไป
สุขอนามัยของผู้ให้บริการ นักบำบัด หรือผู้นวด ต้องได้รับการฝึกอบรมตามหลักสูตรมาตรฐาน และมีประกาศนียบัตรรับรองจากกระทรวงสาธารณสุข ก่อนเริ่มต้นนวด ผู้นวด หรือนักบำบัด จำเป็นต้องทำความสะอาดร่างกายให้สะอาดก่อนให้บริการทุกครั้ง เล็บมือควรตัดสั้น ขัดให้สะอาด ผมต้องมัดเก็บให้เรียบร้อย ไม่ใส่น้ำหอม รวมถึงไม่ใส่เครื่องประดับใดๆ เพื่อป้องกันไม่ให้รบกวน หรือขีดข่วนขณะสัมผัส หรือนวด นอกจากนี้ผู้นวดหรือผู้บำบัดทุกคนต้องติดป้ายชื่อบนเสื้อ เมื่อมีการสอบถามถึงประกาศนียบัตรรับรองอาชีพ ต้องสามารถแสดงได้ หรือคุณอาจสังเกตจากใบรับรองบริเวณแผนกต้อนรับ เพื่อความมั่นใจในบริการ
การรักษาความสะอาด การรักษาความสะอาดภายในสปานับว่าเป็นสิ่งสำคัญมาก เนื่องจากมีคนแวะเวียนเข้าสปาจำนวนมาก และมักข้องเกี่ยวกับการสัมผัส การนวด การใช้น้ำมัน และผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดร่างกายต่างๆ ซึ่งหากทำความสะอาดไม่ดี ก็จะเป็นแหล่งสะสมของเชื้อโรค สามารถแพร่กระจายจากคนหนึ่งไปสู่อีกคนหนึ่งได้ง่าย ดังนั้นการพิถีพิถันเอาใจใส่ทำความสะอาดอุปกรณ์ เครื่องมือ เครื่องใช้ภายในสปาจึงจำเป็นต้องเปลี่ยนทุกครั้งที่เริ่มให้บริการแก่ลูกค้ารายใหม่ เช่น
- ผ้าขนหนู เสื้อคลุมอาบน้ำ ผ้าปูเตียง ผ้าห่ม ควรผ่านการซัก อบ ผ่านการฆ่าเชื้อ ไม่มีกลิ่นอับชื้น ในทางตรงกันข้ามไม่ควรมีกลิ่นน้ำหอมแรงเกินไป เนื้อผ้าควรเป็นแบบผ้าฝ้าย 100% เพราะระบายความชื้นได้ดี และไม่ระคายเคืองต่อผิวหนัง และควรเปลี่ยนใหม่ทุกครั้งหลังใช้ ทั้งนี้ควรมีบริการอุปกรณ์ใช้แล้วทิ้ง เช่น หมวกคลุมผม รองเท้าสลิปเปอร์ กางเกงในกระดาษ เพราะนอกจากอำนวยความสะดวก ยังป้องกันการติดเชื้อได้อย่างดี
- หวี แปรง ควรเปลี่ยนใหม่ทุกครั้ง เพื่อหลีกเลี่ยงการติดเชื้อราและรังแค
- อุปกรณ์ทำความสะอาดผิว ฟองน้ำ ใยบวบ แปรงขัดตัว แปรงขัดหน้า อุปกรณ์เหล่านี้ต้องเปลี่ยนใหม่ทุกครั้งเมื่อลูกค้ารายใหม่ใช้บริการ หรืออย่างน้อยต้องทำความสะอาด ฆ่าเชื้อเช่นกัน เพื่อป้องกันเชื้อราที่อาจสะสมอยู่
- ห้องอาบน้ำ ห้องซาวน่า เนื่องจากเวลาเข้าสปา คุณมักจะต้องสัมผัสกับน้ำมันอโรมาเธอราพี เมื่อทำการชำระล้างร่างกาย คราบน้ำมันเหล่านี้มักติดตามพื้น ผนังห้องน้ำ หากไม่รีบทำความสะอาดทันที จะทำให้เกิดคราบสกปรก ดังนั้นหลังการใช้ห้องอาบน้ำ ห้องซาวน่า ควรมีการทำความสะอาด เช็ดถูทันที และที่สำคัญต้องไม่ใช้ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดที่มีสารเคมี ส่งกลิ่นฉุน ควรเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดสำหรับสปาโดยเฉพาะ
- ผลิตภัณฑ์ที่ใช้ในร้าน ควรเลือกสปาที่ใส่ใจในผลิตภัณฑ์ที่ได้มาตรฐาน มีราคาเหมาะสม เลือกสินค้าที่ได้รับการตรวจสอบจากองค์การอาหารและยา สำหรับผู้ที่มีผิวบอบบาง แพ้ง่าย ควรเลือกสปาที่ใช้ผลิตภัณฑ์ที่ผ่านการพิสูจน์ว่าไม่แพ้ หรือพยายามใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมจากธรรมชาติมากที่สุด ไม่เป็นกรดหรือด่างมากเกินไป และไม่มีกลิ่นน้ำหอมฉุน ซึ่งรวมไปถึงดอกไม้ตกแต่ง และเทียนหอมที่จุดในสปา ทั้งสองสิ่งจำเป็นสำหรับสร้างกลิ่นสดชื่นทำให้รู้สึกผ่อนคลาย แต่ต้องได้สมดุลกัน ไม่ส่งกลิ่นตีกันจนทำลายบรรยากาศอื่นๆ เสียหมด ที่สำคัญดอกไม้ที่นำมาโรยอ่างน้ำ ต้องปราศจากยาฆ่าแมลง และสุดท้ายห้องที่จุดเทียนหอม หรือน้ำมันอโรมาเธอราปี ต้องติดตั้งระบบระบายอากาศที่ดี
การเลือกใช้บริการสปาสักแห่ง จึงไม่เพียงต้องพิจารณาจากการบริการ ราคา หรือชื่อเสียงเท่านั้น แต่ต้องเจาะลึกลงไปในรายละเอียดเล็กๆ น้อยๆ เหล่านี้ เพราะจุดมุ่งหมายของการเข้าสปา คือ ทั้งร่างกายและจิตใจ ได้รับการผ่อนคลายมากที่สุด คงไม่มีใครอยากจ่ายเงินแพงๆ แต่ได้รับการบริการแบบไม่เต็มร้อยแน่นอน ดังนั้นครั้งต่อไปที่จะเลือกเข้าสปา ขอให้พนักงานพาเดินสำรวจสักรอบ เพื่อเป็นตัวเสริมในการตัดสินใจย่อมไม่เสียหายค่ะ
TIPS ควรรู้ก่อนไปสปา
- หากคุณตั้งครรภ์ หรือเป็นโรคความดันโลหิตสูง โรคหัวใจ ควรปรึกษาแพทย์ก่อนใช้บริการ สปาทุกครั้ง แต่ไม่แนะนำให้เข้าห้องซาวน่า หรือห้องสตรีม เนื่องจากมีอุณหภูมิสูง ทำให้หลอดเลือดขยาย หัวใจจะสูบฉีดเร็วขึ้น จะทำให้ปวดหัว มีอาการมึน ตาพร่า
- หลีกเลี่ยงการรับประทานอาหารหนัก หรือดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ อย่างน้อย 1 ชั่วโมง ก่อนเข้าสปา แต่ก็ไม่ควรปล่อยท้องว่างเช่นกัน
- ควรไปถึงเวลานัดล่วงหน้า 15 นาที เพื่อเตรียมพร้อมก่อนเข้ารับบริการ เช่น การพักดื่มน้ำ หรือชาสมุนไพร
- หลีกเลี่ยงการแว็กซ์ หรือโกนขน 1 วันก่อนเข้ารับบริการขัดผิวด้วยเกลือ มิฉะนั้นผิวอาจเกิดการระคายเคืองได้
- ควรหลีกเลี่ยงการตากแดด หรืออยู่กลางแดดจัด ก่อนการเข้ารับบริการนวดใดๆ
- หากใส่เครื่องประดับ ให้ถอดออกก่อนเข้ารับบริการ อาจฝากไว้ในตู้นิรภัยที่ทางสปาเตรียมไว้ให้ แต่ถ้าถอดเก็บไว้ที่บ้านจะปลอดภัยที่สุด
- ในระหว่างการรับบริการสปา ควรหลับตาและสูดหายใจเข้า-ออก ลึกๆ จะช่วยให้ร่างกายผ่อนคลายยิ่งขึ้น
- ควรปิดเครื่องมือสื่อสารทุกชนิด เพื่อคุณจะได้ผ่อนคลายอย่างแท้จริง
- ตลอดเวลาที่ได้รับบริการ หากรู้สึกไม่สบาย หรือไม่พอใจ ควรแจ้งกับผู้นวด หรือนักบำบัดให้ให้ทราบทันที
ข้อมูลจาก: Mr. Andrew Jacka, Horwath Spa Consulting / Mr.Richard Williams, Manager of Chiva-Som International Health Resort และภาพจาก Mandara Spa ที่มาข้อมูล : นิตยสาร Health Today
อ่านข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ invariety-helath.blogspot.com แหล่งรวมบทความของคนรักสุขภาพ
0 ความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น